Magic: The Gathering (MTG) ประกาศคอลแลปส์กับ FINAL FANTASY สร้างความสั่นสะเทือนทั้งในแวดวงเกมการ์ดสะสม (Trading Card Game) และเกม RPG โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น "หนึ่งในความร่วมมือที่น่าตื่นเต้นที่สุด" ภายใต้โครงการ Universes Beyond ของ Wizards of the Coast และยังถือเป็น "จดหมายรัก" ที่มอบให้แก่ซีรีส์ Final Fantasy อีกด้วย
ชุดการ์ดที่หลายคนรอคอยนี้ มีกำหนดวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 13 มิถุนายน 2025 โดยได้ Zakeel Gordon เป็นผู้นำทีมพัฒนาในโปรเจกต์นี้ รับหน้าที่เป็น Executive Producer ของ MTG และยังเป็น Product Architect หรือผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์หลักด้วย
การคอลแลปส์กับ Square Enix เริ่มต้นจากทางฝั่ง MTG เป็นฝ่ายติดต่อไป โดยการพัฒนาชุดการ์ดนี้ใช้เวลาร่วม 5 ปี นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของโครงการ Universes Beyond ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่มีการประกาศความร่วมมือกับ The Lord of the Rings
Gordon เผยว่า ตลอดระยะเวลาการพัฒนา ทีมได้เดินทางไปญี่ปุ่นถึง 5 ครั้ง เพื่อประชุมเชิงลึกกับ Square Enix ทั้งในด้านระบบเกมและการสร้างโลก (Worldbuilding) พร้อมทั้งยืนยันว่า ภาคนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการพัฒนาและวางแผนพร้อมกันทั้งเวอร์ชันภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น
ชุด Main Set จะมีการ์ดใหม่ 300 ใบ ครอบคลุมตั้งแต่ FFI จนถึง FFXVI และยังมี "Commander Deck" อีก 4 แบบ โดยใช้ FFVI, FFVII, FFX และ FFXIV เป็นธีมหลัก นอกจากนี้ยังมี Starter Kit ซึ่งใช้ Cloud และ Sephiroth เป็นตัวเด่น รวมถึงบรรดาตัวละครคลาสสิกอย่าง Moogle, Chocobo, Tonberry ไปจนถึงตัวละครยอดนิยมอย่าง Yuna, Tidus, Kefka, Tina, Ishtola และแม้แต่ฉากในตำนานอย่าง "Meteor Strike บนรถไฟผี (Doomtrain)" ก็ถูกนำมาถ่ายทอดในรูปแบบการ์ด
งานศิลป์มากกว่า 1,100 ชิ้น ผสมผสานแนวคิด "Top-down" และ "Bottom-up" Gordon เปิดเผยว่า จำนวนงานอาร์ตทั้งหมดในโปรเจกต์นี้มีมากถึง 1,100 ชิ้น โดยแยกเป็น:
การออกแบบความสามารถของการ์ด ใช้วิธีผสมระหว่าง "Top-down" (เริ่มจากตัวละคร เช่น "สร้างการ์ดสไตเนอร์ต้องเชื่อมกับอาวุธ เป็นอัศวินที่สวมใส่อุปกรณ์ได้ดี" กับ "Bottom-up" (เริ่มจากกลไกเกม เช่น" ต้องมีการ์ดลบมอนสเตอแล้วใน FF มีสกิลไหนเจ๋ง ๆ บ้าง?" เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมดุลระหว่างโลกของ FF และระบบของ MTG
อีกทั้งยังมี ศิลปินตำนานร่วมสร้าง รวมกว่า 250 คน ในหมวด "Final Fantasy Guest Artist Series" ศิลปินชื่อดังจากฝั่ง Square Enix ได้เข้าร่วม เช่น Yoshitaka Amano, Tetsuya Nomura, Isamu Kamikokuryo โดยพวกเขาได้เลือกตัวละครโปรดและวาดอาร์ตต้นฉบับใหม่สำหรับการ์ดชุดนี้ นอกจากนี้ ยังมีศิลปินจากทั่วโลกกว่า 250 คน ร่วมวาดภาพ โดยได้รับบรีฟจาก Art Director ของฝั่ง MTG และมี Square Enix คอยตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอน
Gordon กล่าวว่า ฝั่ง Square Enix เองก็มีทีมงานที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ MTG ไม่ต่างจากเขาที่เป็นแฟน FF มากว่า 20 ปี หลายครั้งหลังประชุมจบในญี่ปุ่น ทีมทั้งสองฝ่ายมักไปทานข้าวเย็นแล้วกลับมาเล่น MTG ด้วยกัน พร้อมแชร์ไอเดีย เช่น “ถ้ามีเมคานิกส์แบบนี้จะดีไหม” จนกลายเป็นกระบวนการพัฒนาที่เต็มไปด้วยความสนุก
เพื่อความชัดเจนในการพัฒนา ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันว่า จะจำกัดเนื้อหาไว้เฉพาะ FFI - FFXVI เท่านั้น โดยไม่มีสปินออฟอย่าง FF Tactics ซึ่งเป็นที่นิยมเช่นกัน แต่ยังไม่มีแผนรวมในเซตนี้
การ์ด FF ทั้งหมดสามารถเล่นร่วมกับการ์ด MTG เดิมได้ ตัวอย่างเช่น การ์ด Cloud มีความสามารถค้นหา "อุปกรณ์" จากในเด็ค ซึ่งอาจเป็น Buster Sword ในชุด FF หรือเลือกใช้ไอเท็มจากเซตเก่า ๆ ก็ได้ ทำให้เกิดคอมโบใหม่ที่ผสมผสานระหว่างโลก FF และ MTG อย่างไร้ขอบเขต
แม้จะมีแผนให้ FFXVI เป็นส่วนหนึ่งของเซตตั้งแต่ต้น แต่ในขณะนั้นตัวเกมยังไม่ออก ทีมจึงต้องรอให้เกมวางจำหน่ายจริงในปี 2023 แล้วรีบเล่นและสร้างการ์ดทันทีในแบบ "เรียลไทม์" Gordon เล่าว่า "เราได้เกมวันเดียวกับผู้เล่นทั่วไป แล้วทั้งทีมก็เล่นทั้งวันทั้งคืนผ่านสุดสัปดาห์ แชร์กันในแชทว่า 'Clive กลายเป็น Ifrit ได้!' หรือ 'Jill กับ Torgal ต้องมีแน่นอน!' มันเป็นช่วงเวลาที่สนุกมาก"
แม้ยังไม่มีการยืนยันว่าความร่วมมือนี้จะมีภาคต่อ แต่กอร์ดอนยืนยันว่าทั้งสองบริษัทยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม พร้อมฝากข้อความถึงแฟน ๆ ทั้งสองฝั่งว่า
"สำหรับแฟน ๆ FF เราร่วมมือกับ Square Enix อย่างใกล้ชิดเพื่อถ่ายทอดความสมจริงของซีรีส์ออกมาในโลกของ MTG ด้วยความเคารพสูงสุด ขอให้สนุกกับอาร์ตและเกมเพลย์ที่เราเตรียมไว้"
"สำหรับแฟน ๆ MTG จักรวาล FF เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ มนต์เวท และตัวละครที่เชื่อมโยงกับกลไกของ MTG ได้อย่างลงตัว เราหวังว่าการผสานสองโลกนี้จะกลายเป็นสิ่งที่น่าจดจำสำหรับทุกคน"
Source: famitsu
© GAMGON GAGGAME. All Rights Reserved. Design by HTML Codex