องค์กรผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์ฟ้อง Sony ฐาน "ผูกขาดตลาดเกมคอนโซล" และ "ตั้งราคาซอฟต์แวร์เกินจริง" บน PS Store

องค์กรไม่แสวงหากำไร Stichting Massaschade & Consument ได้ยื่นฟ้องร้องแบบกลุ่มต่อ Sony ในประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยกล่าวหาว่าบริษัท "ใช้อำนาจเหนือตลาดเกมคอนโซลในทางที่ผิด" พร้อมอ้างว่าการผลักดันผู้เล่นเข้าสู่ระบบดิจิทัลเพียงอย่างเดียวบนเครื่อง PS5 ส่งผลให้ Sony ผูกขาดการจำหน่ายเกมผ่าน PS Store และสามารถกำหนดราคาซอฟต์แวร์ได้โดยไม่มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม

คดีนี้ระบุว่า Sony ใช้ประโยชน์จากอิทธิพลของตนในตลาด โดยเฉพาะเมื่อคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PS5 มีรุ่นที่ไม่มีไดรฟ์แผ่นดิสก์ ส่งผลให้ผู้บริโภคถูกจำกัดให้ซื้อเฉพาะเกมดิจิทัล ซึ่งงานวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์พบว่าผู้บริโภคต้องจ่ายเงินเฉลี่ยสูงกว่าถึง 47% เมื่อเทียบกับเกมเวอร์ชันกล่อง แม้ว่าต้นทุนการจัดจำหน่ายแบบดิจิทัลจะต่ำกว่ามากก็ตาม

ลูเซีย เมลแชร์ตส์ ประธานของ Stichting Massaschade & Consument ให้ความเห็นว่า "มากกว่า 80% ของเจ้าของคอนโซลในเนเธอร์แลนด์ใช้ PlayStation ซึ่งทำให้ Sony มีอิสระในการตัดสินใจโดยไม่ต้องคำนึงถึงคู่แข่ง นักพัฒนา หรือผู้บริโภค" นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าระบบปิดของ Sony อาจจำกัดเสรีภาพทางการค้าของนักพัฒนาเกมรายย่อย

ทางองค์กรเรียกร้องค่าเสียหายเป็นมูลค่าสูงสุดถึง 435 ล้านยูโร (ประมาณ 508 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยการไต่สวนรอบแรกจะมีขึ้นภายในเดือนมิถุนายนนี้

แม้ว่าคดีจะตั้งอยู่บนข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง แต่อย่างไรก็ตาม การที่ยังมีเครื่อง PS5 รุ่นไดรฟ์แผ่นและสามารถซื้อเกมแผ่นได้ อาจทำให้ข้อโต้แย้งเรื่องผูกขาดมีน้ำหนักไม่มากนักในทางกฎหมาย

Source: pushsquare