Bandai Namco Entertainment ได้จัดงานเปิดตัวเกม "CODE VEIN II" ภายในงาน Summer Game Fest: Play Days ซึ่งจัดขึ้นที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 7–9 มิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา โดยเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2026 ลงให้กับแพลตฟอร์ม PC, PlayStation 5 และ Xbox Series X|S
"CODE VEIN II" คือการกลับมาอีกครั้งของซีรีส์ Action-RPG ที่เคยเปิดตัวในปี 2019 พร้อมการยืนยันชัดเจนจากทีมพัฒนาว่า เกมภาคใหม่นี้ไม่ใช่แค่ภาคต่อธรรมดา แต่เป็น "การสร้างใหม่ทั้งหมด" ของภาคแรกในทุกมิติ ทั้งเนื้อเรื่อง ระบบการต่อสู้ ระบบบัดดี้ และการสร้างตัวละคร
เหตุการณ์ใน "CODE VEIN II" ดำเนินในโลกอนาคตที่ใกล้ล่มสลาย ซึ่งมนุษย์และ "Revenant" สิ่งมีชีวิตอมตะที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ต้องพยายามอยู่ร่วมกัน แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อมี "ดวงจันทร์แห่งความกระหาย" ปรากฏขึ้นและทำให้เหล่าเรฟแนนต์กลายพันธุ์เป็นอสูรกาย
ผู้เล่นจะรับบทเป็น "Vampire Hinter" มนุษย์กลุ่มสุดท้ายที่สามารถดึงพลังของแวมไพร์มาใช้ผ่านหัวใจของตนเอง โดยมีเป้าหมายเพื่อกอบกู้โลกจากหายนะ หนึ่งในตัวละครสำคัญคือ "ลูว์ แม็กเมล" แวมไพร์สาวปริศนาที่ช่วยชุบชีวิตผู้เล่นด้วยหัวใจของเธอเอง และด้วยพลังในการเดินทางข้ามเวลา เธอจะพาผู้เล่นย้อนกลับไปสู่เหตุการณ์เมื่อร้อยปีก่อน เพื่อคลี่คลายต้นตอของภัยพิบัติ
ในอดีตนั้น ได้เกิด "ปรากฏการณ์ Resurgent" ที่เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นอสูร และจากความผิดปกติบางอย่าง ก่อให้เกิด "Lunar Phase" หรือ "ดวงจันทร์แห่งความกระหาย" ที่เป็นต้นเหตุทำให้ Revenant กลายพันธุ์อย่างรุนแรง ผู้เล่นต้องร่วมมือกับลูว์เพื่อไขปริศนาทั้งหมด
ในโลกอดีต ผู้เล่นจะได้พบกับ "วาเลนติน วอร์ดา" ทายาทของตระกูลแวมไพร์ที่ทรงพลังที่สุดคนหนึ่ง เขาเป็นนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคพิเศษของแวมไพร์ และจะร่วมมือกับผู้เล่นในการพัฒนาความสามารถพิเศษเพื่อใช้ในการต่อสู้
สร้างตัวละครลึกขึ้น ระบบคู่หูอัปเกรด และกลไกเดินทางข้ามเวลา ระบบสร้างตัวละครได้รับการยกระดับขึ้นอย่างมาก มีตัวเลือกชุด สี และเสียงมากกว่าเดิม โดยผู้เล่นสามารถเลือกเสียงจากกว่า 20 ตัวเลือก
ระบบคู่หูกลับมาอีกครั้งพร้อมการเพิ่มพลัง "Jutsushiki" (Surgical procedure) ที่ส่งผลต่อกลยุทธ์การต่อสู้ เช่น การสร้างสถานะผิดปกติ ช่วยเหลือจากระยะไกล หรือเบี่ยงเบนความสนใจศัตรู
จุดเด่นที่สุดคือ กลไกเดินทางข้ามเวลา การกระทำในอดีตจะส่งผลโดยตรงกับโลกในปัจจุบัน เช่น หากผู้เล่นทำลายสะพานในอดีต จะทำให้เปิดเส้นทางใหม่ในดันเจี้ยนของยุคปัจจุบัน
โลกทั้งสองยุคยังมีบรรยากาศแตกต่างกันชัดเจน ยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยความพังทลายและเงาของ "Lunar Phase" ขณะที่อดีตยังมีซากอารยธรรมหลงเหลืออยู่
ระบบคอมโบจะอิงตามอาวุธที่ใช้ ผู้เล่นสามารถสะสมทรัพยากรระหว่างต่อสู้เพื่อปลดปล่อยพลังพิเศษได้ อุปกรณ์เฉพาะของ Vampire Hunter ที่เรียกว่า "Jail" คือกลไกเก็บหัวใจของแวมไพร์ไว้ที่แผ่นหลัง ช่วยปลดปล่อยพลังโจมตีมหาศาลพร้อมการป้องกันขั้นสูง
Jutsushiki ของแวมไพร์ช่วยเพิ่มกลยุทธ์การต่อสู้ ทั้งโจมตีระยะไกล เพิ่มพลัง หรือทำให้ศัตรูติดสถานะผิดปกติ
Jutsushiki ระดับตำนาน ถือเป็นความสามารถสูงสุด ที่สามารถดึงพลังมหาศาลออกมาเรียกอาวุธโบราณในตำนานที่ไม่สามารถสร้างได้ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันมาใช้ในการต่อสู้
ระบบ "ดันเจี้ยนสุดท้าทาย" ที่เป็นจุดเด่นของภาคแรกยังคงอยู่ โดยแต่ละพื้นที่ออกแบบแตกต่างกันอย่างชัดเจน ตั้งแต่ซากสิ่งปลูกสร้างยุคใหม่ ไปจนถึงโลกผิดรูปที่บิดเบี้ยวจากพลังของดวงจันทร์
"CODE VEIN II" สานต่อจิตวิญญาณของภาคแรก พร้อมพัฒนาในทุกด้านอย่างเป็นระบบ ทั้งด้านเนื้อเรื่อง การออกแบบตัวละคร ระบบต่อสู้ และแนวทางการเล่าเรื่องด้วยกลไกการเดินทางข้ามเวลา หากทุกอย่างผสานกันลงตัว เกมนี้อาจกลายเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบแดงของ Bandai Namco ในปี 2026
Source: 4gamer
© GAMGON GAGGAME. All Rights Reserved. Design by HTML Codex